วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

ตอนจบของโดเรมอน




+++++ ตอนจบ +++++

บ่ายวันหนึ่ง ซึ่งก็เป็นวันธรรมดาเหมือนวันอื่นๆ ทั่วๆไป

โนบิตะกลับมาจากโรงเรียน และวิ่งขึ้นไปชั้น 2 ไปที่ห้องของเขา

โดเรมอน อยู่ในห้องนั้น และกำลังนอนอยู่ ซึ่งก็เป็นเหมือนปกติทุกๆวัน

"เฮ้ !! โดเรมอน ตื่นเถอะแล้วไปเล่นด้วยกัน "

โนบิตะชวน แต่โดเรมอนก็ยังไม่ตื่น โนบิตะคิดว่า โดเรมอน คงจะเหนื่อย ปล่อยให้นอนต่อไปดีกว่า ดังนั้นเขาจึงวิ่งออกไปเล่นข้างนอนกะชิซูกะและเพื่อนคนอื่นๆ 2-3 ชั่วโมงต่อมา โนบิตะก็กลับมาที่บ้านของเขา และโดเรมอนก็ยังคงนอนอยู่ โนบิตะเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไป

"ปกติโดเรมอนไม่นอนนานอย่างนี้นี่นา "

เขาพยายามจะปลุกโดเรมอน แต่ก็ไม่มีการตอบสนองจากโดเรมอน โนบิตะเริ่มรู้สึกกลัว และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะปลุกโดเรมอน แต่ไม่ว่าโนบิตะจะพยายามทำอย่างไรก็ตาม โดเรมอนก็ไม่ตื่น ถึงตอนนี้โนบิตะรู้ชัดเจนแล้วว่ามีบางอย่างแปลกไป ซึ่งสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โนบิตะเริ่มร้องไห้ แม้ว่าจะร้องไห้หรือตะโกนร้องอย่างไร เจ้าหุ่นยนต์รูปแมวตัวอ้วน ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างไร

แล้วโนบิตะก็เกิดความคิดขึ้นมา!! เขากระโดดลงไปในลิ้นชักโต๊ะของเขา, ใช่แล้วค่ะ ไทม์แมชชีนนั่นเอง โนบิตะใช้ ไทม์แมชชีน ไปในอนาคตไปหา โดเรมี น้องสาวของโดเรมอน โนบิตะไปขอความช่วยเหลือจากโดเรมี และพาเธอกลับมากับเขากลับมาในปี 1998

หลังจากนั่ง ไทม์แมชชีน กลับมายัง ปี 1998โดเรมีก็ไปตรวจ ระบบต่างๆ ในตัวของโดเรมอน เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับโดเรมอน-พี่ชายของเธอ หลังจากนั้นไม่นาน โดเรมีก็บอกว่า

"แบตเตอรี่ของโดเรมอนหมด"

โนบิตะได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ และบอกกับโดเรมีว่า

"แบตเตอรี่หรือ?? โดเรมอนไม่ได้เสียหายอย่างอื่นใช่ไหม งั้นจะรีรออะไรอยู่ล่ะ ก็เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้เขา และทำให้โดเรมอนตื่นกลับมาเหมือนเดิมสิ" แต่ ..โดเรมี ส่ายหัวและพูดขึ้นว่า

"โนบิตะซัง ฉันควรทำอย่างนั้นเหรอ??"

"อะ... อะไรนะ โดเรมี เธอหมายความว่ายังไง???"

โดเรมีตอบว่า"ก็ แบตเตอรี่หลักของ โดเรมอนอยู่ตรงนี้ ใกล้กับกระเป๋าหน้าของเขา และไฟมันหมดแล้ว ซึ่งแต่เดิมแล้วโดเรมอนจะมีแบตเตอรี่สำรองอยู่ที่หู , แต่ว่าโนบิตะ ก็อย่างที่รู้ๆกันแหล่ะว่า หูของโดเรมอนถูกหนูแทะกินไป เมื่อหลายปีมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้โดเรมอนก็เลยไม่มีแบตเตอรี่สำรอง"

"แล้วมันหมายความว่าอย่างไรละ" โนบิตะสงสัย

"ก็หมายความว่า ถ้าฉันเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้โดเรมอน ความทรงจำทุกอย่างของโดเรมอนก็จะหายไป จากส่วนของหน่วยความจำนะสิ"

"อะไรนะ?????? "

"แล้วเธอยังจะให้ฉันเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้อย่างนั้นหรือ"

โนบิตะหลับตาแล้วร้องไห้.... แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หยุดร้อง และบอกโดเรมีจังว่า

"โดเรมี, ขอบคุณนะที่อุตส่าห์มา ฉันจะดูแลโดเรมอนเอง เธอกลับไปอนาคตเถอะ"

โดเรมีจังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อช่วยโนบิตะดี, เธอเข้าไปกอดโนบิตะเพื่อปลอบใจ และก็กลับไปอนาคต

หลังจากโดเรมีกลับไป โนบิตะอุ้มโดเรมอนขึ้น ยกโดเรมอนวางไว้ในตู้ที่นอนของโดเรมอนตามเดิม

วัน-เวลาผ่านไป........... ปีค.ศ.2010, โนบิตะโตขึ้น ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาเปลี่ยนไป เขาทุ่มเท เรียนอย่างหนัก ไม่มีการร้องไห้อีกต่อไป และเขาก็มีชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีโดเรมอน เขาได้บอกชิซูกะและทุกๆคนว่า โดเรมอนได้กลับไปสู่อนาคตของเขาแล้ว และจะไม่สามารถได้พบกับโดเรมอนได้อีกต่อไป ชิซูกะรู้สึกประทับใจในท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อของโนบิตะซึ่งแตกต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง พวกเขาตกหลุมรักซึ่งกันและกัน และในที่สุด ก็ได้แต่งงานกัน... โนบิตะเติบโตเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาได้สร้างห้องของเขาให้กลายเป็นห้องทดลอง และทุ่มเทศึกษาอย่างหนักในงานของเขาตลอดทั้งวัน เขาได้บอกชิซูกะว่าไม่ให้เข้ามาในห้องทดลองของเขา เพราะมีสิ่งที่เป็นอันตรายอยู่มากมาย แต่แล้ววันหนึ่ง เขากลับเรียกชิซูกะให้เข้าไปในห้องของเขา ห้องทดลองซึ่งเขาเคยบอกว่าเต็มไปด้วยอันตราย มันเป็นครั้งแรกที่ชิซูกะได้เข้าไปในห้องของสามีของเธอ และเมื่อเธอเข้าไป เธอถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก..... เพราะสิ่งที่เธอเห็น.. เพื่อนเก่าของเธอ ผู้ที่เธอเคยเล่นด้วยในวันเด็ก "โดเรมอน"

โดเรมอนไม่ได้เคลื่อนไหว มันดูเหมือนว่าเขากำลังหลับ

"ดูนะชิซูกะ ฉันจะเสียบปลั๊กเดี๋ยวนี้แหละ.."

โนบิตะเปิดสวิชส์หลักของโดเรมอน โดเรมอน ลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว..... มันเป็นช่วงเวลาสำหรับคำถามที่ทุกคนอยากรู้ว่า "ผู้ประดิษฐ์โดเรมอน...เป็นใคร" มีคำตอบที่ชัดเจน คนนั้นคือ โนบิตะ นั่นเอง... โนบิตะเรียนอย่างหนัก และทุ่มเท เพื่อที่จะได้พบ ได้คุยกับเพื่อนเก่าของเขา "โดเรมอน" อีกครั้งหนึ่ง .............

ซึ่งในขณะนี้นั้น โนบิตะ ก็เป็นผู้ที่สร้าง โดเรมอนขึ้นมา เขาได้ค้นพบโครงสร้าง สถาปัตยกรรม และโปรแกรมทั้งหมด ของหุ่นยนต์ที่เป็นแบบฉบับของโดเรมอน โนบิตะและชิซูกะ ร้องไห้เบาๆ ด้วยความยินดี.... โดเรมอนลืมตาขึ้นมา... มองไปรอบๆ และในที่สุดก็พูดขึ้นว่า "โนบิตะ นายทำการบ้านเสร็จรึยัง?"
เมฆสีขาวก็ยังลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า เหมือนดังวันก่อน วัน-เวลาที่พวกเขาได้ร่วมใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน.........

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

รวมของวิเศษของโดเรมอนที่ใช้บ่อยๆ



1.โดเรมอนขนาดจิ๋ว เอาไว้เป็นตัวแทนโดเรมอนเวลาไม่อยู่ แต่ของวิเศษก็จิ๋วตามไปด้วย
2.หมวกก้อนหินริมทาง ถ้าสวมแล้วจะไม่มีใครสนใจ
3.นางฟ้านำทาง สวมนิ้ว คอยให้คำปรึกษา
4.ปืนอากาศ สวมแขนเป็นอาวุธ ยิงแรงอัดอากาศ ใช้บ่อยในโดเรมอนตอนพิเศษ
5.คอปเตอร์ไม้ไผ่ ติดหัวทำให้บินได้ หนึ่งในของวิเศษที่โดเรมอนใช้บ่อยที่สุด
6.ใบไม้ร่ายเวท วางไว้บนหัว เอาไว้แผ่พลังจิต
7.หมวกพลังจิต ใส่แล้วทำให้มีพลังจิต 3 แบบ
8.เรือดำน้ำ หดและขยายได้ตามขนาดของภาชนะใส่น้ำ
9.เครื่องเช็คความฝัน คอยช่วยหยิกให้รู้ว่าฝันอยู่หรือเปล่า
10.กล้องเปลี่ยนเสื้อ เปลี่ยนชุดคนตามรูปที่ใส่ลงไปในกล้อง
11.นักล้มรับจ้าง ใส่เหรียญ 10 เยนลงไป จะทำคนให้หกล้มให้
12.วงดนตรีเสริมอารมณ์ คอยเสริมอารมณ์ในทุกสถานการณ์ให้ เหมือนดนตรีประกอบหนัง
13.ไฟฉายย่อส่วนหนึ่งในของวิเศษยอดนิยมในการ์ตูน (มักใช้คู่กันกับไฟฉายขยายส่วน)
14.ประตูไปไหนก็ได้หนึ่งในของวิเศษที่โดเรมอนใช้บ่อยที่สุด
15.วุ้นแปลภาษาใช้สื่อสารกับคนที่พูดภาษาต่างด้าว ใช้กับสัตว์ก็ได้ด้วย โดเรมอนมักเอาออกมาใช้ในตอนพิเศษ
16.ขนมปังช่วยจำช่วยในการจดจำสิ่งต่างๆ ในหนังสือหรือสมุด แต่มีขนาดใหญ่จึงกินมากๆ ไม่ได้
17.ไทม์แมชชีนย้อนเวลาหาอดีตหรือไปอนาคตได้ ทางเข้าอยู่ในลิ้นชักโต๊ะในห้องโนบิตะ
18.คอปเตอร์ไม้ไผ่ติดหัวทำให้บินได้ หนึ่งในของวิเศษที่โดเรมอนใช้บ่อยที่สุด
19.หนูไม่ใช่ของวิเศษอะไร แต่เป็นสิ่งที่โดเรมอนเกลียดและกลัวที่สุด เพราะเคยถูกหนูกัดหูจนแหว่งก่อนที่จะมาอยู่กับโนบิตะ
โดรายากิอาหารโปรดของโดเรมอน
20.อุโมงค์กัลลิเวอร์ ไว้เดินผ่านเพื่อย่อขนาดตัวให้เล็กลง ถ้าต้องการกลับเป็นอย่างเดิมก็เดินกลับจากอีกข้างหนึ่ง

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

ของวิเศษของโดเรมอนที่ใช้บ่อยๆ




ไฟฉายขยายส่วน
ไฟฉายขยายส่วน ดูรายละเอียดที่ ไฟฉายขยายส่วน
ไฟฉายย่อส่วน,ลำแสงย่อส่วน [พิเศษ3] เป็นไฟฉายที่เมื่อฉายแสงไปที่วัตถุใดๆ จะมีขนาดย่อลงไปเรื่อยๆ
ตามระยะเวลาที่ฉายแสงนั้น ไฟฉายลอกคราบ [14] ใช้ลอกคราบตัวเองและใส่ลม จะได้หุ่นจำลองมาอีกร่างหนึ่ง
ไฟแช็กนักเขียนบทแสดง ถ้าเขียนสิ่งใด ๆ ใส่ลงไปในเครื่องนี้ คนก็จะทำงานให้ตามที่เขียนไว้